วันพุธที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2556

ชื่อ Blog http://sakarin88.blogspot.com/

ชื่อ-สกุล นายศักรินทร์ นารีน้อย รหัส 56011317845 สาขา LW

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่เรียน 3


  10 อันตรายทลายโลก จากเทคโนโลยี (มติชน)

เทคโนโลยีมีคุณประโยชน์ก็ต้องมีอันตรายอยู่ด้วยอย่างแน่นอน แต่ผมไม่คิดว่าจะมีใครนั่งใคร่ครวญถึงอันตรายของเทคโนโลยีได้ถี่ถ้วน และเป็นลบได้มากเท่ากับกระทาชายนายริชาร์ด ฮอร์น มาก่อน 
          ริชาร์ด ฮอร์น เป็นนักเขียนชาวอังกฤษครับ หนังสือเล่มล่าสุดของแกชื่อ "เอ อิส ฟอร์ อาร์มาเกดดอน" ที่รวบรวมเอาเรื่องอันตราย ๆ ที่ "อาจ" บังเกิดขึ้นจากพัฒนาการทางเทคโนโลยีไว้มากมาย ผมเลือกเอามาเล่าสู่กันฟังแค่ 10 อย่าง

          เอาแบบที่เป็นอันตรายชนิดสามารถทำร้ายหรือทำลายโลกได้ทั้งโลกได้นั่นแหละ
1.แฮกเกอร์ 

          อย่างที่เรารู้กัน แฮกเกอร์มีทั้งดีทั้งร้าย ทั้งพวก "ไวท์ แฮท" แล้วก็พวก "แบล๊ค แฮท" เจ้าพวกกลุ่มหลังนี่แหละครับที่ ริชาร์ด ฮอร์น บอกว่า อันตรายสุดสุด เคยอวดฝีมือในการเจาะระบบคอมพ์ของหน่วยงานอย่างเพนตากอน, ระบบเตือนภัยด้านกลาโหมแห่งชาติ, นาซา, แบงก์ ออฟ อเมริกา, ซิตี้กรุ๊ป, ฐานทัพอากาศกริฟฟิธ, สถาบันวิจัยนิวเคลียร์แห่งชาติเกาหลี มาแล้ว และอาจจะทำได้อีกในอนาคต น่าสนใจนะครับ ที่บริษัทที่โดนเจาะระบบบ่อยที่สุดก็คือ ไมโครซอฟท์ นั่นเอง

          หายนะระดับทลายโลกอาจมาเยือนได้ ถ้าพวกนี้เจาะเข้าไปในระบบกลาโหมของประเทศที่มีอาวุธนิวเคลียร์อยู่ในครอบครอง จนอาจทำให้เกิดความเข้าใจไขว้เขวว่ามีการโจมตีด้วยอาวุธนิวเคลียร์ขึ้น หลังจากนั้น ทั้งโลกก็อาจตกอยู่ในสงครามเทอร์โมนิวเคลียร์ได้ง่าย ๆ

2.ปัญญาประดิษฐ์ (เอไอ) 
          นักวิทยาศาสตร์และนักค้นคว้าวิจัยของหลายประเทศพยายามอย่างมากที่จะพัฒนาคอมพิวเตอร์ให้ "คิด" เองได้ ริชาร์ด ฮอร์น แสดงความกังขาเอาไว้ว่า อะไรจะเกิดขึ้นถ้ามัน "คิด" และ "ตระหนักรู้ในการมีอยู่" ของตัวมัน และระบบของมันที่ถักทอเป็นเครือข่ายโยงใยไปทั่วโลก ความกระหายใคร่รู้ไม่รู้จักจบสิ้นของมัน อาจทำให้ทั้งประวัติศาสตร์และอนาคตของทั้งคนและเครื่องจักรตกอยู่ในกำมือของคอมพิวเตอร์ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ถ้าหากมันรับรู้ว่ามนุษย์เราคิดต่อมันอย่างไรและเป็นปฏิปักษ์กับพวกมันแค่ไหน (เป็นนิยายไปหน่อยไหมเนี่ย?)

3.ไวรัสจากห้องทดลอง 

          อันนี้ผมค่อนข้างเห็นด้วยเลยทีเดียว ริชาร์ด ฮอร์น บอกว่า ต้องมีสักวันที่นักวิจัยในห้องทดลองเพื่อหาหนทางต่อต้านหรือฆ่าไวรัส ทำอะไรสักอย่างผิดพลาดโดยอุบัติเหตุ ส่งผลให้ไวรัสในห้องทดลองออกมาอาละวาดในสิ่งแวดล้อมทั่วไป

          ที่น่าสนใจก็คือ ตอนนี้นักวิจัยกำลังทดลองพัฒนาไวรัสขึ้นมากลุ่มหนึ่งเพื่อให้ทำหน้าที่ "รักษา" (ด้วยการ "ทำลาย") เซลล์มะเร็งในร่างกายมนุษย์ คำถามที่เกิดขึ้นในเวลานี้ก็คือว่า เมื่อมันทำหน้าที่ของมัน (กินเซลล์มะเร็ง) เสร็จแล้ว ทำอย่างไรถึงจะ "หยุด" มันได้?

 4.สเต็มเซลล์ 

          หรือที่เราเรียกกันว่า เซลล์ต้นกำเนิด ซึ่งเป็นเทคโนโลยีชีวภาพที่โด่งดังมากที่สุดในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา เป้าหมายใน "อุดมคติ" ก็คือว่า คนเราสามารถบังคับเซลล์ต้นกำเนิดให้พัฒนาไปเป็นอวัยวะอะไรก็ได้ เพื่อนำมาใช้ "ทดแทน" ของเดิมที่พิกลพิการเสียหาย ข้อกังขาของ ริชาร์ด ฮอร์น ก็คือ ถ้าเกิดเราไม่คิด "ทดแทน" แต่อยาก "เพิ่ม" ล่ะ? เป็นไปได้หรือไม่ที่ว่า มนุษย์ในยุคนี้จะสูญสิ้นไปกลายเป็น มนุษย์ 10 หน้า 20 แขนในยุคหน้า?

 5.หุ่นยนต์ 
          ลองนึกถึงหุ่นยนต์กบฏในหนัง "ไอ-โรบ็อท" แล้วกันครับ ริชาร์ด ฮอร์น คิดคล้าย ๆ อย่างนั้น แต่เขาบอกด้วยว่า คงอีกนานที่หุ่นจะ "คิด" เองได้ และก้าวข้ามข้อจำกัดเรื่องพลังงานที่ตอนนี้ยังเป็น แบตเตอรี่อยู่ได้

 6.อินเทอร์เน็ต 

          น่าคิดนะครับที่ ริชาร์ด ฮอร์น เขาบอกว่า อินเอร์เน็ตนำอันตรายหลาย ๆ อย่างมาให้คนเรามากกว่าที่หลายคนตระหนัก ตั้งแต่การถูกขโมยอัตลักษณ์ ไปจนถึงการถูกหลอกลวงเสียทั้งเงินเสียทั้งชีวิต แต่หายนะจริง ๆ ในความคิดของเขาก็คือ โลกนี้จะเป็นอย่างไรถ้าหากมี "ไอ้โรคจิต" คนไหนสักคนยึดเอาระบบอินเทอร์เน็ตทั้งระบบไว้ได้?

 7.อาวุธนิวเคลียร์ 

          อันนี้เห็นด้วย 100 เปอร์เซ็นต์ แต่อยากเพิ่มเติมว่า โลกเราเคยเฉียด ๆ ใกล้สงครามนิวเคลียร์มาแล้ว 3 ครั้ง (หลังการระเบิดที่ฮิโรชิม่าและนางาซากิ) ครั้งแรกเมื่อปี 1962 ที่เรียกกันว่า วิกฤตคิวบา ครั้งที่ 2 เมื่อปี 1983 ที่ระบบเตือนภัยล่วงหน้าของสหภาพโซเวียตตรวจจับกลุ่มเมฆรูปดอกเห็ดได้ แล้วเข้าใจผิดว่าเป็นควันจากระเบิดนิวเคลียร์ หนสุดท้ายเกิดในปีเดียวกัน เมื่อโซเวียตเข้าใจผิดว่าการซ้อมรบของนาโต้คือการโจมตีจริง ๆ

 8.คอมพิวเตอร์ เมลท์ดาวน์ 

          ถ้าระบบคอมพิวเตอร์ทั้งโลกหรือครึ่งโลกล่มสลายลงเอง โดยไม่ใช่ความผิดของเรา อะไรจะเกิดขึ้นตามมา? นั่นแหละคือสิ่งที่ริชาร์ดเรียกว่า "เมลท์ดาวน์" เขาบอกว่า ในทางวิทยาศาสตร์นั้นเกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะจากสาเหตุของการเกิดไฟกระชากแรงมาก ๆ หรือเกิดจาก "พายุสุริยะ" ปรากฏการณ์ธรรมชาติของดวงอาทิตย์ แต่ต้องขนาดใหญ่มากกว่าที่เคยเกิดอยู่บ่อย ๆ มากครับ

 9.โคลนนิ่ง

          คงเป็นเรื่องหายนะของโลกได้อย่างแน่นอน ถ้าหากมีผู้นำเอาเทคโนโลยีโคลนนิ่งไปใช้ในทางที่ผิด หรือในทางด้านการทหาร

 10.นาโนบ็อท 

          นักวิทยาศาสตร์พยายามใช้ประโยชน์จากนาโนเทคโนโลยี เพื่อให้ทำในสิ่งที่เหลือเชื่อได้ในทางการแพทย์และอื่น ๆ อย่างเช่นการสร้างหุ่นยนต์นาโนขึ้นมาให้สามารถ "จำลอง" ตัวเองขึ้นมาใหม่ได้ เพื่อทำหน้าที่รักษาอาการเจ็บป่วยในร่างกายที่แพทย์เข้าไม่ถึง

          ริชาร์ด ฮอร์น บอกว่า หายนะอาจมาเยือนโลกได้ในอนาคตหากมันไม่ยอมหยุดสร้างตัวเอง กองทัพนาโนบ็อทที่พร้อมจะกลืนกินทุกอย่างที่ขวางหน้าจะกลืนกินโลกทั้งโลกได้เลย

ที่มา:http://hilight.kapook.com/view/41352

ชื่อ Blog http://sakarin88.blogspot.com/

ชื่อ-สกุล นายศักรินทร์ นารีน้อย รหัส 56011317845 สาขา LW

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่เรียน 3

6 เทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2556 

ย่างเข้าศักราชใหม่กันอีกครั้งกับปี 2556 หรือปีงูเล็กซึ่งเป็นอีกปีที่มีเรื่องให้น่าจับตามองหลายอย่าง ทั้งเศรษฐกิจ สังคม การเมืองการปกครอง อย่างในเมืองไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพก็ขอเริ่มต้นปีกันด้วยการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร อันเป็นจังหวัดเดียวในประเทศไทยที่มีการเลือกตั้งผู้ว่าฯ แต่นั่นก็เป็นเรื่องของการเมืองครับ เข้าเว็บไซด์ MovaVista.com กันทั้งทีเรามาพูดถึงเรื่องเทคโนโลยีกันดีกว่า

ในปี 2556 หรือปี 2013 นั้นมีหลายๆ อย่างในโลกเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่มากมายให้เราได้ติดตามกัน ทั้งเรื่องของอนาคตแสนไกล และสิ่งที่เกิดขึ้นจริงแล้ว พร้อมให้เราได้สัมผัสแล้ว (แต่บางอย่างอาจจะมีมูลค่าสูงเกินเอื้อมสำหรับคนตาดำๆ อย่างเราไปสักหน่อย) มาวันนี้ ผมขอพูดถึงเทคโนโลยีที่น่าสนใจที่เราสามารถจับต้องได้แล้วทั้ง 6 อย่างแห่งปี 2556 กันครับ


เทคโนโลยีที่ 1
คอมพิวเตอร์จอสัมผัส ดั่งใจนึกด้วยปลายนิ้ว
เทคโนโลยีแรกที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือคอมพิวเตอร์หน้าจอสัมผัส กับการหวนคืนสู่การควบคุมบังคับที่ติดตัวมนุษยชาติมาตั้งแต่ยุคหิน นั่นก็คือการใช้นิ้วมือนั่นเอง หลังจากเราพึ่งพาคีย์บอร์ดกับเมาส์กลมๆ มาเป็นเวลานานแสนนาน ในปี 2013 นี้ก็เป็นปีแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ของวงการคอมพิวเตอร์ ด้วยการหันมาควบคุมการทำงานจากนิ้วของเราโดยตรงสู่สิ่งที่ต้องการโดยใช้หน้าจอสัมผัสนั่นเอง

มอนิเตอร์จอสัมผัสขนาด 23 นิ้วจาก LG เปลี่ยนคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะเดิมๆ ให้สนุกกับการสัมผัสได้

เรื่องหน้าจอสัมผัสนั้นมีมานานมากแล้วในวงการคอมพิวเตอร์ แต่กลับไม่ได้รับความนิยมเนื่องจากการใช้งานจริงๆ นั้นแทบจะไม่สอดคล้องเลย ลองจินตนาการถึงการใช้ Windows XP ผ่านหน้าจอสัมผัสแบบไร้เมาส์ดูสิครับ (ผมเคยลองมาแล้ว) อยากบอกว่าลำบากโคตร!อันเนื่องมากจากระบบการทำงานของเราไม่ได้เอื้อเฟื้อให้เทคโนโลยีที่มีราคาแพงมหาศาลในสมัยนั้นเลย แต่จอสัมผัสกลับได้รับความนิยมในกลุ่มโทรศัพท์มือถือมาเป็นเวลาหลายปีจนปัจจุบัน ตั้งแต่ฟีเจอร์โฟนบ้านๆ โทรเข้าโทรออกเล่นเกมได้นิดหน่อยมาจนถึงสมาร์ทโฟนราคาแพงระดับ 30,000 บาทขึ้นไปต่างก็ใช้หน้าจอสัมผัสกันทั้งนั้น ต้นตระกูลของสมาร์ทโฟนหน้าจอสัมผัสที่เราพอจะนึกกันได้นั้นก็คงหนีไม่พ้น Apple iPhone Classic รุ่นดึกดำบรรพ์ที่เพิ่งฉลองอายุครบ 6 ขวบไปเมื่อต้นปีนี้เอง แต่ถ้าถามว่าคอมพิวเตอร์หน้าจอสัมผัสที่พอจะนึกกันได้ไหนสมัยก่อนนั้นพอจะนึกได้ไหม นึกให้ตายยังไงก็นึกกันไม่ออกแน่ๆ

มาจนเดือนตุลาคมปี 2012 ที่ผ่านมา Microsoft และเหล่าพันธมิตรก็สั่นสะเทือนวงการคอมพิวเตอร์อีกระรอกด้วยระบบปฏิบัติการ Windows 8 ที่มาพร้อมกับความแปลกใหม่ด้วยการเปิดประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ผู้ใช้ด้วยระบบรองรับจอสัมผัสเต็มรูปแบบผ่านทาง Start Menu แบบใหม่ (ที่หลายคนแอบบ่น) ด้วยระบบปฏิบัติการที่รองรับการใช้นิ้วโดยสมบูรณ์นี่เอง เหล่าผู้ผลิตเลยจัดเต็มกับอุปกรณ์ของตนเอง ทั้งคอมพิวเตอร์ All-in-one, โน้ตบุ๊ก, อัลตร้าบุ๊ก ไปจนถึงอุปกรณ์แปลงร่างได้กลุ่มไฮบริดอย่างแท็บเล็ตกึ่งโน้ตบุ๊กเป็นต้น ประจวบเหมาะกับเทคโนโลยีการสัมผัสแบบ Capacitive ที่ถึงจุดอิ่มตัวในด้านราคา ทำให้คอมพิวเตอร์จอสัมผัสที่คลอดออกมาพร้อม Windows 8 นั้นมีราคาเริ่มต้นเพียง 21,000 กว่าบาทเท่านั้น! (Acer Aspire M5) คอมพิวเตอร์หน้าจอสัมผัสจึงกลายเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่ผู้คนจับตามองมากที่สุดในปีนี้ และกลายเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของคอมพิวเตอร์ที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป

Sony VAIO Duo Tap 20 ลูกครึ่งแท็บเล็ตกับ All-in-one PC


เทคโนโลยีที่ 2
Windows 8 มารดาแห่งโลก PC-Plus
จากที่กล่าวไว้ในเรื่องคอมพิวเตอร์จอสัมผัสว่าเกิดขึ้นมาได้เพราะมีระบบปฏิบัติ Windows 8 ที่รองรับเทคโนโลยีโดยสมบูรณ์ไว้อยู่ (ไม่งั้นอาจจะยังไม่เห็นหน้าจอสัมผัสกันในปีนี้แน่) Windows 8 จึงเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามองมากในปี 2013 นี้ว่าจะได้รับความนิยมขนาดไหน ล่าสุดนั้นมีการจำหน่าย Windows 8 ออกไปแล้วกว่า 60 ล้านชุดผ่านช่องทางต่างๆ มากมาย จนมีอัตราการเติบโตไวเป็นอันดับหนึ่งของระบบปฏิบัติการไปแล้วอย่างรวดเร็วจากราคาที่ถูกลงกว่าเดิมเกือบ 20% แถมมีโปรโมชั่นสนับสนุนผู้ใช้ Windows เก่ามากมายด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 500 บาทก็เป็นเจ้าของ Windows 8 Pro ซึ่งเป็นรุ่นสูงสุดได้สำหรับผู้ซื้อ  Windows หรือคอมพิวเตอร์ลิขสิทธิ์ Windows ตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2012 หรือจะขยับขึ้นมาเป็น 1,700 บาทสำหรับลูกค้าเก่าตั้งแต่ Windows XP หรือใครที่ไม่เคยใช้ Windows ลิขสิทธิ์ก็ซื้อได้ในราคาเริ่มต้นไม่ถึง 4,000 บาทสำหรับ Windows 8 และสูงสุดไม่ถึง 5,000 บาทสำหรับ Windows 8 Pro (เดิม Windows 7 Ultimate ขายถึง 7,000 กว่าบาท)

Start Menu ที่ออกแบบมาเพื่อการใช้จอสัมผัสอย่างเต็มประสิทธิภาพ

แต่ราคาก็ไม่ใช่จุดน่าสนใจเพียงอย่างเดียวที่จะทำให้ Windows 8 เติบโต แต่หากเป็นเพราะ Windows 8 เป็นระบบปฏิบัติการที่ Microsoft ทุ่มเทออกแบบมาให้สมบูรณ์แบบไร้ที่ติมากที่สุด เพราะตั้งแต่วันที่ 26 ตุลาคมจนถึงวันนี้ ก็ยังไม่มีรายงานความผิดปกติหรือช่องโหว่ร้ายแรงจากระบบปฏิบัติการนี้เลย แถมยังเป็นระบบปฏิบัติการที่เป็นมิตรกับทุกอุปกรณ์ อยู่ได้ตั้งแต่ CPU สมัยพระเจ้าเหามายัน CPU ในอนาคต ขอเพียงเป็นสถาปัตยกรรม X86 ก็พอ (แต่ถ้าใช้ ARM ก็ยังมี Windows RT ให้อีกต่างหาก) ไม่ว่าจะเป็นโน้ตบุ๊ก, อัลตร้าบุ๊ก, เน็ตบุ๊ก ยันแท็บเล็ตตามที่พันธมิตรผู้ผลิตจะผลิตออกมาได้ ด้วยความเป็นเอกภาพมากกว่าเก่านี้ทำให้ Windows 8 เป็นที่สนใจของผู้คนอย่างรวดเร็ว และหันมาใช้กันในที่สุดทั้งจากในคอมพิวเตอร์ประกอบเองหรือคอมพิวเตอร์แบรนด์ดัง และถือเป็นแม่ทัพหลักของยุคแห่งเทคโนโลยีที่ Microsoft พยายามสรรค์สร้างออกมาเป็นยุค PC-Plus ที่นิยามของคอมพิวเตอร์จะถูกเปลี่ยนเป็น “ทำงานได้หลายอย่าง ปรับเปลี่ยนได้หลายหน้าที่ ตามแต่ผู้ใช้ต้องการ” อยากให้เป็นโน้ตบุ๊กก็เป็นได้ อยากให้เป็นเท็บเล็ตก็เป็นได้ เป็นต้น

อยากให้ Windows 8 เป็นอะไรก็จัดไป

นอกจาก Windows 8 แล้ว Microsoft ยังเสริมกองทัพตอกย้ำว่าโลกแห่งอนาคตคือโลก PC-Plus ไม่ใช่ Post-PC ของ Apple (ยุคที่คอมพิวเตอร์จะถูกอุปกรณ์อื่นๆ อย่างสมาร์ทโฟน, สมาร์ททีวี, แท็บเล็ตเข้ามาแทนที่จนไม่เหลือความสำคัญ) ด้วยซอร์ฟแวร์ต่างๆ ที่ยกเครื่องใหม่รับ Windows 8 กันหมดไม่ว่าจะเป็น Office 2013, Skype, SkyDrive, Xbox Live และอื่นๆ อีกมากมายที่ยกขบวนกันมาให้ใช้กันแบบไม่ต้องไปมองหาโปรแกรมจากผู้พัฒนาอื่นเลย (รู้สึกว่าชักจะผูกติดเป็น One Stop Service เหมือน Apple เข้าไปทุกที)


เทคโนโลยีที่ 3
มาตรฐานความละเอียดใหม่ที่คมชัดกว่าเดิมด้วย 4K Ultra HD
ในระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เวลาเราจะซื้อหน้าจอแสดงผลสักตัวหนึ่ง ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือมอนิเตอร์นั้น สิ่งแรกๆ ที่เรามองหากันนั่นก็คือมีสัญลักษณ์ Full HD หรือไม่ กับความละเอียดที่เป็นมาตรฐานสูงสุดในตอนนั้นด้วยสัดส่วน 1,920 X 1,080p ที่จะแสดงภาพได้คมชัดทุกรายละเอียด แต่ในปี 2013 Full HD กำลังจะสละบัลลังก์มาตรฐานสูงสุดให้กับความละเอียดใหม่ในนาม Ultra HD หรือที่รู้จักกันสั้นๆ ว่า 4K กันแล้ว

ขนาดความละเอียดของ Ultra HD เมื่อเทียบกับความละเอียดมาตรฐานอื่นๆ ที่มา : wikipedia.org

Ultra HD (ขอเรียกชื่อนี้จะได้ติดปากกันนะครับ เพราะ 4K เป็นชื่อไม่เป็นทางการ) เป็นความละเอียดของจอแดงผลมาตรฐานใหม่ที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 3,840 X 2,160 (8.3 ล้านพิกเซล) หรือจะกะง่ายๆ ก็คือการนำเอาหน้าจอ Full HD มาเรียงประกอบกัน 4 จอก็จะได้ความละเอียด Ultra HD ซึ่งเริ่มมีการผลิตเป็นโทรทัศน์ออกมาในช่วงปลายปี 2012 จากค่าย LG และ Sony ที่จำหน่ายกันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่เพียงจะมาเปิดตัวเป็นจริงเป็นจังครบทุกค่ายในปี 2013 จากงาน CES 2013 นี้เอง โดยการขยายความละเอียดออกไปในครั้งนี้ทำให้สามารถสร้างหน้าจอที่มีขนาดใหญ่ขึ้นเป็นระดับ 84 นิ้ว ถึง 110 นิ้วโดยที่ยังคงความละเอียดคมชัดสมจริง เพราะถ้าหากหน้าจอขนาดใหญ่แต่ยังใช้ Full HD อยู่จะมีผลทำให้ภาพคมชัดน้อยลงจากเม็ดพิกเซลแต่ใหญ่ขึ้นเพื่อรับหน้าจอนั่นเอง

Samsung Smart TV S9000 ขนาด 84 นิ้วความละเอียด Ultra HD ที่มา : www.itworld.co.kr

ด้วยมาตรฐานนี้ กล้องวิดีโอสำหรับถ่ายทำภาพยนตร์ความละเอียด Ultra HD จึงเปิดตัวออกมาอย่างรวดเร็วตามกัน รวมทั้งสถานีโทรทัศน์ของเกาหลีใต้ KBS ก็เริ่มทดสอบการออกอากาศด้วยความละเอียด Ultra HD แล้ว (เมืองไทยยังอนาล็อกบ้านๆ อยู่เลยให้ตายสิ!) ใครฝันว่าจะได้เห็นสิวเสี้ยวของสาวๆ วง SNSD ก็คงจะได้เห็นกันในทีวีช่องนี้ล่ะครับ แต่ด้วยความเป็นเทคโนโลยีใหม่ และต้นทุนการผลิตสูง ทำให้ทีวีขนาด Ultra HD นั้นมีราคาเกินแสนทุกรุ่น!(เปิดตัวออกมาเป็นหน้าจอ 84 นิ้ว ส่วนหน้าจอ 55 นิ้วลงไปยังไม่มีการกล่าวถึงราคามากนัก) อาจจะต้องใช้เวลาอีกพัก 2-3 ปีกว่า Ultra HD จะเข้ามาแทน Full HD ได้อย่างสมบูรณ์

LG 3D Smart TV 84LM9600ขนาด 84 นิ้วที่วางจำหน่ายไปตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว 
เทคโนโลยีที่ 4
Windows Phone 8 น้องใหม่มาแรงแห่งวงการสมาร์ทโฟน
สำหรับ Windows Phone 8 นั้นเรียกว่าไม่พูดไม่ได้เลย กับระบบปฏิบัติการที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในขณะนี้ (ก็มันเกิดใหม่) และเป็นระบบปฏิบัติการบนสมาร์ทโฟนที่กู้ชีพให้ Nokia พ้นจากความฐานะ “ใกล้เจ๊ง” ซึ่งพี่แกเคยเดิมพันไว้ถึงขนาดถ้า Windows Phone 8 ไปไม่รอด ก็ขอขายบริษัททิ้งแล้ว แต่ Nokia ก็ไม่ต้องขายบริษัทจริงๆ เพราะล่าสุด Lumia ของเขาทำยอดขายได้ถึง 4.4 ล้านเครื่อง แถม Lumia 920 ยังแย่งกันซื้อแบบถล่มทลายโดยเฉพาะในประเทศจีน (ในไทยนี่ต้องจองกันข้ามปีเลยทีเดียว)

Artwork Windows Phone 8 หลายรุ่นจาก www.windowsphone.com

โดยผู้ผลิต Windows Phone 8 ในขณะนี้มีด้วยกัน 4 ค่ายคือ Nokia ที่เป็นหัวหอกหลัก ภายในเวลาเพียง 2 เดือนกว่าๆ ก็เข็น Lumia Windows Phone 8 ออกมาแล้ว 6รุ่น! ได้แก่ Lumia 920, Lumia 920s (ขายในจีน), Lumia 820, Lumia 822 (ขายในอเมริกา), Lumia 810 (ขายในอเมริกา) และ Lumia 620 ส่วนค่ายต่อมาก็เป็นค่ายสมาร์ทโฟนอาการร่อแร่อีกค่าย HTC ที่เข็นออกมา 2 รุ่นคือ Windows Phone 8X กับ 8S ส่วนอีกค่ายคือค่ายผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่รุ่งเรื่องที่สุดแห่งยุค Samsungโดยฉายเดียวรุ่นเดียวคือ ATIV Sและค่าสุดท้ายคือ Huawei มาพร้อมกับ Ascend W1

HTC Windows Phone 8X

ความน่าสนใจของ Windows Phone 8 นั้นอยู่ที่มันคือระบบปฏิบัติการเก่าที่ยกเครื่องใหม่หมดจาก Windows Phone 7 รองรับความเข้ากันกับโค้ตของ Windows 8 ทำให้ทั้ง 2 ระบบสื่อสารกันรู้เรื่องมากขึ้น มีส่วนติดต่อกับผู้ใช้ที่ไม่เหมือนใคร (และไม่มีใครเหมือน ขนาด iPhone กับ Android ยังมีหลายจุดที่คล้ายกัน) แถมพกความลื่นไหลรวดเร็วแบบที่ iPhone ยังแอบแพ้อยู่ด้วยบางจุด และแน่นอนครับ ใช้ง่าย ใส่เพลงง่าย ใส่ริงค์โทนง่าย ใส่รูปง่าย หยั่งกะใช้คอมพิวเตอร์ที่คุ้นเคย ไฟล์ไหนมันอ่านไม่ออกมันจับแปลงให้ด้วย! (สกุลเพลงแปลกๆ มันจับแปลเป็น WMA หมด) ใครว่า Android ง่ายแล้วมาเจอ Windows Phone 8 นั้นง่ายกว่าอีก

Nokia Lumia 620 หลากสีสันที่จะวางจำหน่ายในไทยเร็วๆ นี้

Windows Phone 8 จึงกลายเป็นเทคโนโลยีที่น่าจับตามองในปี 2013 ว่ามันจะสามารถสู้กับพลังของ Android กับ iPhone และเหล่าสาวกที่ออกแนวต่อต้านนิดๆ ได้หรือไม่ แต่สำหรับคนที่เบื่อสมาร์ทโฟนแบบเก่าๆ แล้ว นี่คือคำตอบของคุณครับ


เทคโนโลยีที่ 5
เมื่อสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตติดจรวด 2.3GHz / CPU 8-Core / GPU 72-Core
อีกเรื่องที่น่าจับตามองที่สุดในปี 2013 ในด้านของฮาร์ดแวร์นั้นกลับไม่ใช่ Intel Haswell CPU 4thGeneration ของ Intel แต่อย่างใด แต่กลับเป็น CPU ARM บนอุปกรณ์พกพาอย่างสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตที่นับวันจะยิ่งเหมือนคอมพิวเตอร์เข้าไปทุกที ล่าสุดในงาน CES 2013 นั้นผู้ผลิตชิพ ARM ทั้ง 3 ค่ายใหญ่อย่าง NIVDIA, Qualcommและ Samsung ต่างก็งัดไม้เด็ดของชิพรุ่นใหม่ที่จะวางจำหน่ายในปี 2013 มาอวดโฉมแบ่งประสิทธิภาพกันใหญ่

ผังการออกแบบของ NVIDIA Tegra 4 ที่มา : www.fonearena.com

เริ่มที่ NVIDIA ที่โวก่อนเปิดงาน CES 2013 เลยว่าชิพตัวใหม่ในนาม Tegra 4 นั้นแรงที่สุดในโลก แซงหน้า A6X ของ iPad 4th Generation ไปแบบขาดลอยด้วยแกนประมวลผลแบบ 4+1 Quad-core ประหยัดพลังงานสุดๆ แถมพก GPU มา 72-Core เลย รองรับการแสดงผลได้ในระดับ Ultra HD อีกด้วย พอวันต่อมา Qualcomm ก็ไม่ขอน้อยหน้าด้วยการเปิดตัว 4 พี่น้องตระกูล Snapdragon รุ่นใหม่ ได้แก่ Snapdragon 800 / 600 / 400 และ 200 โดยไม้เด็ดอยู่ที่พี่ใหญ่ Snapdragon 800 ที่พกแกนประมวลผลมา 4+1 Quad-core เช่นกัน แต่เร่งความเร็วออกมาถึง 2.3GHz!!! รองรับ Ultra HD ได้เหมือน Tegra 4 อีกด้วย

Qualcomm Snapdragon Series ที่มา : www.techindustriya.com

ส่วนวันที่ 3 ทาง Samsung ก็ขอเล่นของกับเขาบ้างด้วย Exynos 5 Octa ที่ไม่ได้เน้นความเร็ว แต่พี่ขอทำได้หลายอย่างพร้อมกันด้วยแกนประมวลผลที่ติดมาถึง 8-Core สร้างความฮือฮาในวงการได้ไม่น้อย แถมยังเป็นการประกาศศักดิ์ดาว่า CPU ARM พร้อมเข้ามาแทนที่คอมพิวเตอร์แล้ว และเตือนว่ายุค Post-PC นั้นเป็นไปได้มากกว่ายุค PC-Plusในขณะที่ CPU ฝั่งคอมพิวเตอร์ X86 ยังไม่สามารถรุกล้ำอธิปไตยของ ARM บนสมาร์ทโฟนได้จนกระทั่งการเปิดตัว Lenovo IdeaPhone สมาร์ทโฟนตัวแรกที่ยัด Intel Atom CPU X86 ลงไปได้เป็นรุ่นแรก จึงน่าจับตามองเป็นอย่างมากกว่าทั้ง Tegra 4, Snapdragon 800และ Exynos 5 จะมีประสิทธิภาพมากขนาดไหน และอุปกรณ์ตัวได้จะได้ใช้กันเป็นรายแรก

Samsung Exynos 5


เทคโนโลยีที่ 6
ยกทุกอย่างไว้บนอากาศ ให้ก้อนเมฆเป็นคลังข้อมูลของคุณกับระบบ Cloud
เมื่อช่วงกลางปี 2012 ผมได้เขียนเรื่องของ Cloud Computing หรือระบบการประมวลผลและเก็บข้อมูลผ่านเซิฟเวอร์ไร้ตัวตน (สำหรับเรา) กันไปแล้ว อันเป็นนิยามใหม่ของการใช้งานคอมพิวเตอร์ในปัจจุบัน แต่ทว่าความแพร่หลายนั้นก็ยังมีไม่มากนัก แต่ Cloud ก็ยิ่งน่าจับตามองมากขึ้นเรื่อยๆ จนถึงปี 2013 นี้

ทำไม Cloud ที่มีมานานจึงน่าจับตามองในปีนี้หรือครับ? นั่นก็เพราะว่าที่ผ่านมาในชีวิตจริงคุณได้ใช้ Cloud กันสักเท่าไหร่นอกจากการเก็บข้อมูลนิดๆ หน่อยๆ แต่ในปี 2013 Cloud จะมีบทบาทกับคุณมากขึ้นโดยเฉพาะกับคนที่ใช้ Windows 8, Windows Phone 8 นั่นก็เพราะ Microsoft บังคับให้ SkyDriveฝั่งอยู่ในเครื่องของคุณเลย นอกจากนี้โปรแกรมต่างๆ ก็รองรับการทำงานผ่าน Cloud มากขึ้นอย่าง Office 2013 และ Office 365 ที่เปลี่ยนการบันทึกข้อมูลเข้าระบบ Cloud เป็นหลัก หรือจะเป็นโปรแกรมบนหน้าเบราเซอร์ใหม่อย่าง Office Web App นั่นก็ประมวลผลผ่าน Cloud กลายเป็นว่า Cloud ยิ่งจะซึมซาบเข้าสู่พฤติกรรมการใช้งานของเรามากขึ้น จนถึงจุดที่เรารู้สึกได้ในปี 2013 นี้แล้ว

SkyDrive ที่เข้าถึงได้จากทุกอุปกรณ์ ทุกระบบปฏิบัติการ

นอกจากการเก็บข้อมูล Cloud ก็เริ่มมีบทบาทในวงการเกมมากขึ้น ระบบเกมสตรีมมิ่งหรือการเล่นเกมโดยให้เซิฟเวอร์ที่ไหนไม่รู้ประมวลผลให้แล้วส่งภาพมาให้เราเป็นฉากๆ แทนก็เริ่มเข้ามาในชีวิตเราในอีกเร็วๆ นี้ ซึ่ง Microsoft กลายเป็นหัวหอกหลักที่จะให้บริการผ่าน Xbox Live เป็นต้น ความน่าสนใจของ Cloud จึงกำลังถูกจับตามองมากที่สุดในปีนี้นี่เอง

นอกจากทั้ง 6 เทคโนโลยีนี้แล้ว ยังมีอะไรอีกมากที่เราต้องติดตามชมกันต่อไปในปีนี้ และผมเชื่อว่ายังมีนวัตกรรมใหม่ๆ อีกมากที่ยังคงเป็นความลับและรอการเปิดเผยอยู่ แต่สิ่งที่เราควรจะตระหนักไว้ก็คือการวิ่งไล่ตามเทคโนโลยีอย่างไม่หยุดหย่อนนั้นอาจจะกลายเป็นภัยต่อตนเอง เพราะการจะได้มาซึ่งสิ่งเหล่านี้ปัจจัยเดียวที่พวกเขาต้องการคือเงินจากกระเป๋าของคุณ ฉะนั้นติดตามเทคโนโลยีไว้อย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ต้องไปวิ่งไล่จับมันนะครับ พอใจในสิ่งที่เรามีดีที่สุด (อันนี้แหละทำยากที่สุดล่ะ กิเลสมักเหนือกว่าเสมอเวลาเจอของใหม่ๆ เจ๋งๆ

วันพุธที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2556


ชื่อ Blog http://sakarin88.blogspot.com/

ชื่อ-สกุล นายศักรินทร์ นารีน้อย รหัส 56011317845 สาขา LW

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่เรียน 3

ที่8 การใช้สารสนเทศตามกฎหมายและจริยธรรม
คำชี้แจงจงพิจารณากรณีศึกษานี้
1) “ นาย A ทำการเขียนโปรแกรมขึ้นมาโปรแกรมหนึ่งเพื่อทดลองโจมตีการทำงานของคอมพิวเตอร์ สามารถใช้งานได้ โดยระบุ IP-Address โปรแกรมนี้สร้างขึ้นมาเพื่อทดลองในงานวิจัย นาย B ที่โปรแกรมนี้ไปใช้และส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่รู้จักได้ทดลอง “  การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
ตอบ
  ผิดจริยธรรม ผิดกฎหมาย หากทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายจากสิ่งที่ทำขึ้นนี้ 
2) “นาย J ได้ทำการสร้างโฮมเพจ เพื่อบอกว่าโลกแบนโดยมีหลักฐาน อ้างอิงจากตำราต่างๆ อีกทั้งรูปประกอบ เป็นการทำเพื่อความสนุกสนาน ไม่ได้ใช้ในการอ้างอิงทางวิชาการใดๆ เด็กชาย K เป็นนักเรียนในระดับประถมปลายที่ทำรายงานส่งครูเป็นการบ้านภาคฤดูร้อนโดยใช้ข้อมูลจากโฮมเพจของนาย J ” การกระทำอย่างนี้เป็น ผิดจริยธรรม หรือผิดกฎหมายใดๆ หรือไม่ หากไม่ผิดเพราะเหตุใด และหากผิด ผิดในแง่ไหน จงอธิบาย
ตอบ ไม่ผิดจริยธรรม ไม่ผิดกฎหมาย เพราะ เป็นความคิดในแง่ของแต่ละบุคคล แต่ควรศึกษาจากข้อมูลที่ถูกต้องด้วย

ชื่อ Blog http://sakarin88.blogspot.com/

ชื่อ-สกุล นายศักรินทร์ นารีน้อย รหัส 56011317845 สาขา LW

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่เรียน 3

แบบฝึกหัด บทที่ 7 ความปลอดภัยของสารสนเทศ
1.หน้าที่ของ firewall คืออะไร?
ตอบ ไฟร์วอลล์ คือเครื่องมือที่ใช้ในการป้องกันเน็ตเวิร์กจากการสื่อสารทั่วไปที่ไม่ได้รับ อนุญาต โดยที่เครื่องมือที่ว่านี้อาจจะเป็นHardware Software หรือ ทั้งสองรวมกันขึ้นอยู่กับวิธีการหรือ Firewall Architecture ที่ใช้ไฟร์วอลล์ เป็นเครื่องมือที่ทำหน้าที่รักษาความปลอดภัยในเชิงการป้องกัน (Protect) ซึ่งจะทำหน้าที่ควบคุมการเข้าถึงเน็ตเวิร์ก (Access Control) โดยอาศัยกฎพื้นฐานที่เรียกว่า Rule Base ปัญหาความปลอดภัยของเน็ตเวิร์ก คือ การควบคุมการเข้าถึงระบบหรือข้อมูลภายในเน็ตเวิร์ก หรือที่เรียกว่า ซึ่งก่อนที่จะเกิดLogical Access ได้นั้นต้องทำการสร้างการเชื่อมต่อ (Logical Conection) และการเชื่อมต่อนั้นต้องใช้ Protocol ดังนั้นไฟร์วอลล์จึงจะทำหน้าที่ตรวจสอบการเชื่อมต่อภายในเครือข่าย ให้เป็นไปตามกฏ

 2.จงอธิบายคำศัพท์ต่อไปนี้เกี่ยวกับไวรัสคอมพิวเตอร์ worm virus computer spy ware adware 
มาอย่างน้อย1โปรแกรม
ตอบ  ไวรัส Worm อ่านว่า "วอร์ม" มีการเรียกเป็นภาษาไทยว่า "หนอนอินเตอร์เน็ต" เป็นไวรัสประเภทหนึ่งที่ก่อกวน สามารถทำสำเนาตัวเอง (copy) และแพร่กระจายไปยังเครื่องคอมฯ เครื่องอื่นๆ ได้ ทำให้คอมพิวเตอร์ส่วนตัว และในระบบเครือข่ายเสียหายมานักต่อนักแล้ว ไวรัส วอร์ม นี้ปัจจุบันมีหลากหลายมาก มีการแพร่กระจายของไวรัสได้รวดเร็วมาก ทั้งนี้เนื่องจากไวรัส วอร์ม จะสามารถแพร่กระจายผ่านทางอีเมล์ได้ ไม่ว่าจะเป็น Outlook Express หรือ Microsoft Outlook 

3.ไวรัสคอมพิวเตอร์แบ่งเป็นกี่ชนิด อะไรบ้าง
ตอบ  6 ชนิด ได้แก่ 
1.บูตเซกเตอร์ไวรัส (Boot Sector Viruses)
2.โปรแกรมไวรัส (Program Viruses)
3.ม้าโทรจัน (Trojan Horse)
4.โพลีมอร์ฟิกไวรัส (Polymorphic Viruses)
5.สทิลต์ไวรัส (Stealth Viruses)
6.มาโครไวรัส(Macro viruses)   
4.ให้นิสิตอธิบายแนวทางการป้องกันไวรัสมาอย่างน้อย5ข้อ
ตอบ
1.ควรติดตั้งซอฟแวร์ป้องกันไวรัสที่เชื่อถือได้ และสามารถอัพเดทฐานข้อมูลไวรัสและเครื่องมือได้ตลอด เพราะจะทำให้สามารถดักจับและจัดการกับไวรัสตัวใหม่ ๆ ได้อย่างรวดเร็ว
2.อย่าตั้งค่าให้โปรแกรมอีเมลเปิดไฟล์ที่แนบมาโดยอัตโนมัติ ควรจะต้องตรวจสอบก่อนดาวน์โหลดหรือเปิดไฟล์ขึ้นมา
3.สแกนไฟล์แนบท้ายของอีเมลทุกฉบับ หรือแม้แต่อีเมลจากคนรู้จัก
4.ตั้งค่าระบบป้องกันให้ทำงานทันทีที่เริ่มเปิดคอมพิวเตอร์ใช้งาน 
5.อัพเดทซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสอย่างสม่ำเสมอ ถ้าเป็นไปได้ควรอัพเดททุกครั้งที่ออนไลน์ เพราะจะมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่เกิดขึ้นทุกวัน
5.มาตรการด้านจริยธรรมคอมพิวเตอร์ที่ควบคุมการใช้อินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมกับสังคมปัจจุบันได้เเก่
ตอบ แผนแม่บทเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ฉบับที่ 2 ของประเทศไทย


ชื่อ Blog http://sakarin88.blogspot.com/

ชื่อ-สกุล นายศักรินทร์ นารีน้อย รหัส 56011317845 สาขา LW

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่เรียน 3

แบบฝึกหัด บทที่ 6 การประยุกต์ใช้สารสนเทศในชีวิตประจำวัน

1. การประยุกต์ความรู้ทางวิทยาศาสตร์มาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นความหมายของข้อใด?
  1. เทคโนโลยีสารสนเทศ
  2. เทคโนโลยี
  3. สารสนเทศ
  4. พัฒนาการ
2.เทคโนโลยีสารสนเทศใดก่อให้เกิดผลด้านการสร้างความเท่าเทียมกันในสังคม?
  1. ควบคุมเครื่องปรับอากาศ
  2. ระบบการเรียนการสอนทางไกล
  3. การสร้างสื่อคอมพิวเตอร์ช่วยสอน
  4. การพยากรณ์อากาศ
3.การฝากถอนเงินผ่านเอทีเอ็ม เป็นลักษณะเด่นของเทคโนโลยีสารสนเทศข้อใด?
  1. ระบบอัตโนมัติ
  2. เปลี่ยนรูปแบบการบริการเป็นแบบกระจาย
  3. เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำเนินงานในหน่วยงานต่างๆ
  4. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
4.ข้อใดคือการประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศ?
  1. ระบบการถ่ายโอนการเงินผ่านอินเทอร์เน็ต
  2. บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต
  3. การติดต่อข้อมูลผ่านเครือข่าย
  4. ถูกทุกข้อ
5.เทคโนโลยีสารสนเทศหมายถึงข้อใด?
  1. การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
  2. ข้อมูลต่างๆที่เกี่ยวกับเทคโนโลยี
  3. การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาสร้างข้อมูลเพิ่มเติมให้สารสนเทศ
  4. การนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์มาใช้จัดเก็บข้อมูล
6.เครื่องมือที่สำคัญในการจัดการสารสนเทศในยุคเทคโนโลยีสารสนเทศคืออะไร?
  1. เทคโนโลยีการสื่อสาร
  2. สารสนเทศ
  3. คอมพิวเตอร์
  4. ถูกทุกข้อ
7.ข้อใดไม่ใช่บทบาทของเทคโนโลยีสารสนเทศ?
  1. เทคโนโลยีสารสนเทศช่วยเพิ่มผลผลิต ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน
  2. เทคโนโลยีสารสนเทศสามารถเปลี่ยนการสั่งซื้อสินค้าจากที่บ้านหรือสอบถามผลสอบได้
  3. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้ผู้คนทุกระดับติดต่อกันได้อย่างรวดเร็ว
  4. เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
 8.ข้อใดไม่ใช่อุปกรณ์ที่ช่วยงานด้านสารสนเทศ?
  1. เครื่องถ่ายเอกสาร
  2. เครื่องโทรสาร
  3. เครื่องมินิคอมพิวเตอร์
  4. โทรทัศน์ วิทยุ
9.ข้อใดกล่าวไม่ถูกต้องเกี่ยวกับ เทคโนโลยีสารสนเทศ?
  1. เป็นหัวใจสำคัญในการดำเนินธุรกิจ
  2. พัฒนาอย่างรวดเร็วทั้งทาง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ข้อมูล และการสื่อสาร
  3. ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
  4. จะเข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันมากขึ้น
10.ข้อใดคือประโยชน์ของการนำเอาเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้กับการเรียน
  1. ตรวจสอบผลการลงทะเบียน ผลการสอบได้
  2. สามารถสืบค้นข้อมูลได้จากแหล่งข้อมูลที่มีอยู่ทั่วโลกได้
  3. ติดต่อกับเพื่อน ครู อาจารย์ หรือส่งงานได้ทุกที่
  4. ถูกทุกข้อ
คำตอบ
  1. ตอบ 4.พัฒนาการ
  2. ตอบ 2.ระบบการเรียนการสอนทางไกล
  3. ตอบ 1.ระบบอัตโนมัติ
  4. ตอบ 4.ถูกทุกข้อ
  5. ตอบ 1.การประยุกต์เอาความรู้มาทำให้เกิดประโยชน์ต่อมวลมนุษย์
  6. ตอบ 4.ถูกทุกข้อ
  7. ตอบ 4.เทคโนโลยีสารสนเทศทำให้มีการสร้างที่พักอาศัยที่มีคุณภาพ
  8. ตอบ 1.เครื่องถ่ายเอกสาร
  9. ตอบ 3.ไม่เกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์
  10. ตอบ 4.ถูกทุกข้อ

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

แบบฝึกหัด บทที่ 5 การจัดการสารสนเทศ

ชื่อ Blog http://sakarin88.blogspot.com/

ชื่อ-สกุล นายศักรินทร์ นารีน้อย รหัส 56011317845 สาขา LW

รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่เรียน 3

คำชี้เเจง จงตอบคำถามต่อไปนี้

1.จงอธิบายความหมายของการจัดการสารสนเทศ

 การผลิต จัดเก็บ ประมวลผล ค้นหา และเผยแพร่ สารสนเทศโดยจัดให้มีระบบสารสนเทศ การกระจายของสารสนเทศ ทั้งภายในและภายนอกองค์การ โดยมีการนำเทคโนโลยีต่างๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีสารสนเทศ และการสื่อสารมาใช้ในการจัดการ รวมทั้งมีนโยบาย หรือ กลยุทธ์ระดับองค์การในการจัดการสารสนเทศ

2.การจัดการสารสนเทศมีความสำคัญต่อบุคคลและต่อองค์การอย่างไร

       มีความสำคัญต่อบุคคลในด้าน การดำรงค์ชีวิตประจำวัน การศึกษา และการประกอบอาชีพ
       มีความสำคัญต่อองค์การในด้าน การบริหารจัดการ การดำเนินงาน กฎหมาย

3.พัฒนาการของการจัดการสารสนเทศแบ่งออกเป็นกี่ยุค อะไรบ้าง

          2ยุค 1.การจัดการสารสนเทศด้วยระบบมือ 2.การจัดการสารสนเทศด้วยคอมพิวเตอร์

4.จงยกตัวอย่างการจัดการสารสนเทศที่นิสิตใช้ในชีวิตประจำวันมา อย่างน้อย 3 ตัวอย่าง

          1.ห้องสมุดออนไลน์ 2.ทำบัญชีผ่านคอมพิวเตอร์ 3.หาข้อมูลทางอินเทอร์เน็ต

แบบฝึกบทที่ 4 เทคโนโลยีสารสนเทศ

ชื่อ-สกุล นายศักรินทร์ นารีน้อย
 รหัส 56011317845  สาขา LW
รายวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวตประจำวัน รหัสวิชา 0026008 กลุ่มที่เรียน 3

1.ให้นิสิตยกตัวอย่างอุปกรณ์ที่ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศตามหัวข้อต่อไปนี้ อย่างน้อยหัวข้อละ 3 ชนิด แล้วแลกเปลี่ยนกันตรวจสอบกับ      เพื่อน
   1)การบันทึกและจัดเก็บข้อมูล
      ตอบ DVD      แฟลชไดร์      ฮาร์ดดิสก์พกพา
   2)การแสดงผล
      ตอบ Printer    Plotter      monitor
   3)การประมวลผล
      ตอบ เครื่องคิดเลข    ฮาร์ดแวร์    CPU
   4)การสื่อสารและเครือข่าย
      ตอบ โทรศัพท์เคลื่อนที่     วิทยุ    คอมพิวเตอร์

2.ให้นิสิตนำตัวเลขในช่องขวา มาเติมหน้าข้อความในช่องซ้ายที่มีความที่สัมพันธ์กัน
     8     ซอฟต์แวร์ประยุกต์                              1.   ส่วนใหญ่ใช้ทำหน้าที่คำนวณ ประมวลผลข้อมูล
     3      Information Technology                  2.   e-Revenue
     1     คอมพิวเตอร์ในยุคประมวลผลข้อมูล      3.   เทคโนโลยีต่างๆที่นำมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินการเกี่ยวกับสารสนเทศ                                                                                    เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ความถูกต้องแม่นยำ และความรวดเร็วต่อการนำไปใช้
     6      เทคโนโลยีสารสนเทศ ประกอบด้วย    4.   มีองค์ประกอบพื้นฐาน 3 ส่วน ได้แก่ Sender Medium และ Decoder
    10     ช่วยเพิ่มผลผลิต เพิ่มต้นทุน และเพิ่ม   5.   การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในการรับ-ส่งเอกสารจากหน่วยงานหนึ่งไปยัง
             ประสิทธิภาพในการทำงาน                       อีกหน่วยงานหนึ่งโดยส่งผ่านเครือข่าย      
     7      ซอฟต์แวร์ระบบ                                6.   เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ เทคโนโลการสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลอื่นๆ
                                                                         ที่เกี่ยวข้อง
     9      การนำเสนอบทเรียนในรูปมัลติมิ          7.   โปรแกรมที่ทำหน้าที่ใช้ควบคุมอุปกรณ์ต่างๆภายในระบบคอมพิวเตอร์
             เดียที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ด้วย
             ตัวเองได้ตามความสามารถ
    5       EDI                                                 8.   โปรแกรมระบบห้องสมุดอัตโนมัติ จัดเป็นซอฟต์แวร์ประเภท
    4       การสื่อสารโทรคมนาคม                     9.   CAI
    2       บริการชำระภาษีออนไลน์                   10.  ลักษณะสำคัญของเทคโนโลยีสารสนเทศ 

วันอังคารที่ 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

 แบบฝึกหัด ที่ 1 

แบบฝึกหัดบทที่ 1

1.ข้อมูลหมายถึง
           ข่าวสาร เอกสาร ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับบุคคล สิ่งของหรือเหตุการณ์ที่มีอยู่ในรูปของตัวเลข ภาษา ภาพ สัญลักษณ์ต่างๆ ที่มีความหมายเฉพาะตัว ซึ่งยังไม่มีการประมวลไม่เกี่ยวกับการนำไปใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

2.ข้อมูลปฐมภูมิคือ
       ข้อมูลที่ได้จากการเก็บรวบรวม หรือบันทึกจากแหล่งข้อมูลโดยตรง ซึ่งอาจจะได้จากการสอบถาม การสัมภาษณ์ การสำรวจ การจดบันทึก
   ยกตัวอย่าง ข้อมูลการมาโรงเรียนของนักเรียน จากการสอบถามเพื่อนนักเรียน

3.ข้อมูลทุติยภูมิ
    เป็นแหล่งของข้อมูลที่ได้จากรายงาน หรือถ่ายทอดมาจากข้อมูลชั้นต้น หรือนำข้อมูลปฐมภูมิมาสังเคราะห์และเรียบเรียงขึ้นใหม่ เพื่อเสนอข้อคิดหรือแนวโน้มบางประการ 
   ยกตัวอย่าง หนังสือทั่วไป

4.สารสนเทศหมายถึง
 ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อการดำเนินชีวิตของมนุษย์ สารสนเทศ เกิดจากการนำข้อมูล ผ่านระบบการประมวลผล คำนวณ วิเคราะห์และแปลความหมายเป็นข้อความ อย่างเป็นระบบตามหลักวิชาการ ที่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้เช่น ระบบสื่อสารผ่านดาวเทียมหรือสัญญาณระบบต่างๆ การสร้างเครือข่ายคอมพิวเตอร์ระบบดาวเทียม การจองตั๋วเครื่องบิน การกดเงินจาก ATM เป็นต้น

5.จงอธิบายประเภทของสารสนเทศ
                      Hardware หมายถึงอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องในการจัดกระทำกับข้อมูล 
ทั้งที่เป็นอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ เครื่องคิดเลข 
                    
                      User หมายถึง กลุ่มผุ้คนที่ทำงานหรือเกี่ยวข้องกับระบบสารสนเทศ 
                      Data  หมายถึง ข้อเท็จจริงต่าง ๆ ที่อาจอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น 
ตัวหนังสือ แสง สี เสียง สัญญาณอิเล็กทรอนิกส์  ภาพ วัตถุ หรือ หลาย ๆ อย่างผสมผสาน
กัน ซึ่งข้อมูลที่ดีจะต้องตรงกับความต้องการของผู้ใช้ 

                      
6. ข้อเท็จจริงของสิ่งต่างๆที่อาจเป็นตัวเลข ข้อความ รูปภาพ เสียง คือ 
 ข้อมูล

7.ข้อมูลที่ผ่านการประมวลผล เป็น 
สารสนเทศ

8.ส่วนสูงของเพื่อนที่ถามจากเพื่อนแต่ละคนเป็น  
 ข้อมูลปฐมภูมิ

9.ผลของการลงทะเบียน เป็น 
  ข้อมูลทุติยภูมิ

10.กราฟแสดงจำนวนนิสิตในห้องเรียนวิชาการจัดการสารสนเทศยุคใหม่ในชีวิตประจำวัน Section วันอังคาร เป็น
 ข้อมูลทุติยภูมิ

                                                  แบบฝึกหัดบทที่ 2

   1.ให้นิสิตหารายชื่อเว็บไซค์หรือเทคโนโลยีให้บริการต่างๆตามหัวข้อเหล้านี้มา
       อย่างละ3 รายการ
1.1 การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสาขาการศึกษา
               www.based-Instruction.com
               www.board.ru.ac.th
               www.dlf.ac.th


1.2 การการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพธุรกิจ พาณิชย์ และสำนักงาน
  1.การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในด้านธุรกิจ
 ระบบสารสนเทศด้านการบัญชี 
 ระบบสารสนเทศด้านการเงิน 

2. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการเงินและการพาณิชย์ สถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร ได้ใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศในรูปแบบของ ATM เพื่ออำนวยความสะดวกในการฝาก ถอน โอนเงิน ในส่วนของงานประจำของธนาคารต่างนำคอมพิวเตอร์ระบบออนไลน์และออฟไลน์เข้ามาช่วยปฏิบัติงาน ทำให้การเชื่อมโยงข้อมูลธนาคารเป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว ทุกสาขาสามารถเชื่อมโยงกับสาขาอื่นหรือสำนักงานใหญ่ และสามารถเชื่อมโยงกับธนาคารอื่นได้


3. การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในสำนักงาน
  งานจัดเตรียมเอกสาร เช่น การใช้เครื่องประมวลผลคำหรือเครื่องประมวลผลเนื้อหา เป็นเครื่องมือในการจัดเตรียมอุปกรณ์ ประกอบการใช้เทคโนโลยีนี้ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์ โมเด็มและช่องทางการสื่อสาร
  งานกระจายเอกสาร เช่น ระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ เทเลเท็กซ์ โทรสาร ระบบการประชุมทางไกล 
 

1.3 การการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพการสื่อสารมวลชน
      การประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในงานการบริการการสื่อสาร ได้แก่ 
  การบริการโทรศัพท์ โทรศัพท์เคลื่อนที่ วิทยุ โทรทัศน์ เคเบิลทีวี 
  ด้านมัลติมีเดีย ด้านกราฟฟิก โปรแกรมต่าง ๆ ซรอฟแวร์ ระบบวิเคราะห์ภาพ เสียง
   ดาวเทียม และโครงข่ายบริการสื่อสารร่วมระบบดิจิตอล (ISDN) เป็นต้น

1.4 การการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางอุตสาหกรรม
        อุตสาหกรรมการผลิตภัณฑ์ ได้ใช้คอมพิวเตอร์ออกแบบ รถยนต์ ปฏิบัติการผลิต เช่น การพ่นสี      การเชื่อมอุปกรณ์ต่างๆ เข้าด้วยกัน ฯลฯ
      


1.5 การการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางการแพทย์
          ระบบสารสนเทศโรงพยาบาล  เป็นระบบที่ช่วยด้าน Patient record หรือเวชระเบียน ระบบข้อมูลยา การรักษาพยาบาล การคิดเงิน
          
          ระบบผู้เชี่ยวชาญ  เป็นระบบที่ใช้คอมพิวเตอร์วินิจฉัยโรค หลักการที่ใช้คือ เก็บข้อมูลต่างๆ ไว้ให้ระเอียด แล้วใช้หลักปัญญาประดิษฐ์ หรือ Artificial Intelligence : AL มาช่วยวิเคราะห์ เป็นแนวความคิดทำให้คอมพิวเตอร์ทำงานได้เหมือนคน

1.6 การการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพทางทหาร ตำรวจ

          เทคโนโลยีสารสนเทศในวงการตำรวจ นำเทคโนโลยีสารเทศเข้ามาใช้งานมากมาย หลากหลายรูปแบบหลายระบบ เพื่อช่วยในการสืบสวน ติดตาม จับกุมคนร้าย เช่น ระบบ สารสนเทศ Polis,ระบบสารสนเทศของกองพิสูจน์หลักฐาน ,กองทะเบียนประวัติอาชญากรรม,ระบบปฏิบัติการ C3I ของตำรวจนครบาลและระบบ e–cop เป็นต้น 
          ใช้เครื่องมือการตรวจวัดแอลกอฮอล์


1.7 การการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพวิศวกรรม
  ใช้ในการประดิษฐ์นวัตกรรมใหม่ ๆ เช่น วิศวกรรมยานยนต์ก็จะใช้คอมพิวเตอร์ในการสร้างแบบจำลองรถยนต์รุ่นต่าง ๆ หรือสร้างแบบจำลอง  สำหรับทดสอบการชนและการกระแทก 

1.8 การการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในวิชาชีพด้านเกษตรกรรม
          ใช้ไอทีเป็นสื่อ(Media)ในการสื่อสารเผยแพร่ความรู้ด้านการเกษตรนอกเหนือจากสื่ออื่น ๆ
          จัดทำโปรแกรมเพื่ออำนวยประโยชน์ต่อการประกอบอาชีพเกษตรกรรม
          ประยุกต์ใช้ไอทีในการสืบค้นข้อมูลข่าวสารความรู้ด้านการเกษตรจากแหล่งความรู้


1.9 การการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศที่เกี่ยวข้องกับคนพิการต่างๆ
          http://www.healthyability.com/new_version5/ เว็บสร้างเสริมสุขภาพผู้พิการไทย
          http://www.ddc.go.th/ เว็บศูนย์พัฒนาอาชีพผู้พิการ
          http://www.blind.or.th/ เว็บมูลนิธิช่วยคนตาบอลแห่งประเทศไทย


2. มหาวิทยาลับมหาสารคามเตรียมเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการศึกษาให้กับท่านมีอะไรบ้าง บอกมาอย่างน้อย 3 อย่าง
 ระบบ e-learning
 ระบบลงทะเบียนเรียน
 สำนักวิทยบริการ 


3.ข้อ 2 จงวิเคราะห์ว่าท่านจะเอาเทคโนโลยีเหล่านั้น มาทำให้เกิดประโยชน์ตนเองอย่างไรบ้าง 
ทำให้ตัวเองสะดวกสบายขึ้น

                                                           แบบฝึกหัดบทที่ 3

1. ข้อใดเป็นความหมายที่ถูกที่สุดของการรู้สารสนเทศ
ง. ความสามารถของบุคคลที่สามารถเข้าถึงประเมินและใช้งานสารสนเทศ

2. จากกระบวนการรู้สารสนเทศทั้ง5ประการประการใดสำคัญที่สุด
               ง. ความสามารถในการใช้และการสื่อสารสารสนเทศอย่างมีประสิทธิภาพ

3. ข้อใดไม่ใช่ลักษณะของผู้รู้สารสนเทศ
                ก. สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้
                
4. ข้อใดไม่ใช่ความสำคัญของการรู้สารสนเทศ
                3. สารสนเทศมีการเพิ่มปริมาณอย่างรวดเร็ว จนยากที่จะเข้าถึง
                
5. ข้อใดเป็นการเรียงลำดับขั้นตอนของกระบวนการเรียนรู้สารสนเทศที่ถูกต้อง
                ค. 5-4-1-2-3
นายศักรรินทร์ นารีน้อย 56011317845 Lw